How to Choose the Best Bottle Printing Solutions?

วิธีการเลือกรูปแบบการพิมพ์ขวดที่ดีที่สุด

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ นอกเหนือจากรสชาติและคุณภาพของเครื่องดื่มแล้ว ยังมีเรื่องของบรรจุภัณฑ์ยังเป็นแง่มุมหนึ่งที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ (Inkjet Printer) นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งในการปรับให้เข้ากับแนวโน้มการผลิตเครื่องบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ

ตั้งแต่การใช้ QR Code พิมพ์ลงกระป๋องและขวด โดยได้มีการใช้เทคนิคการพิมพ์แบบใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อทำการพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงและมีทำการตลาดบนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เช่น โค๊ตส่วนลด

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่ทำให้ความนิยมของเครื่องดื่ม 'สุขภาพ' เป็นที่นิยมในตลาดมากขึ้น พร้อมกันนั้นยังมีความพยายามที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์บรรจุเครื่องดื่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลาสติกและส่งเสริมความยั่งยืนสิ่งแวดล้อม

แต่เนื่องจากแนวโน้มของการพิมพ์ฉลากขวดและฉลากบรรจุภัณฑ์ยังคงมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีข้อกำหนดพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นความสำคัญของการถ่ายทอดข้อมูลอย่างชัดเจนยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต

   Quality Coding and Bottle Label Printing:

การพิมพ์รหัสที่มีคุณภาพและการพิมพ์ฉลากขวดที่ดี:    
สิ่งที่ต้องจำ

การพิมพ์ฉลากบนขวด นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มแล้ว จะต้องทำโดยคำนึงถึงคุณภาพการพิมพ์ รหัสที่จะพิมพ์ และความถูกต้องแม่นยำที่สูง    แล้วนั้น คุณจะต้องให้งานพิมพ์ขวดเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการพิมพ์ เช่น แสดงวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยรหัสการพิมพ์ที่แม่นยำ พิมพ์ชัดเจน และทนทาน ซึ่งจะทำให้บริษัทของคุณยังคงสามารถติดตามและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของคุณได้แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะเผชิญกับปัจจัยภายนอกแบบใดก็ตาม

ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกรูปแบบการพิมพ์ขวดที่ดีที่สุด

1.   เลือกหมึก(Ink)ที่เหมาะสม

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกหมึกที่สามารถพิมพ์บนขวดแก้วและขวดพลาสติกได้อย่างคงทนหรือเป็นหมึกที่พิมพ์บนวัสดุใดได้บ้าง ที่ตรงกับวัสดุผลิตภัณฑ์ของคุณ

เช่น หมึกที่ใช้กับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทแบบต่อเนื่อง (CIJ Printer) เหมาะสมกับงานแช่เย็น และสามารถที่จะทำงานได้ดีทั้งในสภาวะที่อาจเกิดการควบแน่นที่ผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อม หรือจะไม่มีการเกิดการควบแน่นที่ผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อมก็ได้

นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณา เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเครื่องพิมพ์(Inkjet Printer) และหมึกที่จะพิมพ์ในลักษณะต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพอย่างสูง

2.   เลือกเครื่องพิมพ์ขวดที่เหมาะสม

สำหรับเครื่องพิมพ์ขวด(Inkjet Printer)ที่เหมาะสมนั้น คุณจะต้องเลือกให้ตรงตามมาตรฐานการพิมพ์ของลูกค้า ความสามารถในการพิมพ์ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด เช่น เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์ QR Code, พิมพ์รันนิ่งเลขได้ เป็นต้น และคุณยังสามารถเลือกใช้เครื่องพิมพ์ขวดที่สามารถพิมพ์งานได้เลยโดยตรงที่กระบวนการผลิต (On line) หลังการบรรจุเครื่องดื่มลงขวดแล้ว ซึ่งทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของการสั่งพิมพ์ฉลากล่วงหน้า แล้วใช้งานไม่ได้เนื่องจากฉลากที่พิมพ์มาหมดอายุ QR Code ไม่ตรง และสถานที่การจัดเก็บฉลากที่สั่งพิมพ์

นอกจากนี้ยังมีข้อควรพิจารณาที่สำคัญเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าคุณจะเลือกการพิมพ์และเครื่องพิมพ์ (Inkjet Printer) ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ

1. ตรวจสอบว่าวัสดุที่จะพิมพ์ของคุณเป็นอะไร เพื่อที่จะพิจารณาถึงประเภทของหมึกและการเลือกสีที่คุณต้องการในการพิมพ์ เช่น ขวดสีดำ จะต้องใช้หมึกสีขาวหรือสีเหลืองในการพิมพ์และเป็นหมึกที่มีส่วนผสมของ MEK Base เพื่อการมองที่ชัดเจนและการยึดเกาะที่คงทน

2. รู้จักข้อความที่จะพิมพ์ ลักษณะการพิมพ์ ว่าคุณจะต้องการพิมพ์กี่บรรทัด ต้องเพิ่มเติมในอนาคตหรือไม่ หรือการวางแนวการพิมพ์ที่แตกต่างกันหรือไม่ เช่น พิมพ์ตามยาวหรือตามขวาง หัวพิมพ์กลับหัวพิมพ์ได้ที่ 180 องศา นี่คือข้อควรพิจารณาที่สำคัญอีกประการเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์(Inkjet Printer)ที่คุณเลือกมา สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้

3. ความเร็วของเครื่องบรรจุหรือความเร็วสายพานการผลิต(line speed) คุณต้องแน่ใจว่าความสามารถของเครื่องพิมพ์ (Inkjet Printer)สามารถพิมพ์ข้อความลงบนขวดตามความเร็วของสายการผลิตได้โดยไม่ลดทอนคุณภาพการพิมพ์ และลดทอนความเร็วในการผลิต

4. พิจารณาระดับ IP ของเครื่องพิมพ์ (IP Rating) สภาพแวดล้อมของโรงงานอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์ขวด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ (Inkjet Printer) มีระดับ IP Rating ที่ถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์จะไม่ลดลงไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปียกหรือมีฝุ่น

5. การพิจารณาต้นทุนและการลงทุน ต้องตรวจสอบราคาเครื่องพิมพ์(Inkjet Printer) ที่คุณต้องการว่าตรงกับงบประมาณที่คุณมีหรือไม่ เรียกว่าต้นทุนเริ่มต้น และควรพิจารณาต้นทุนโดยรวมโดยการรวมต้นทุนของวัสดุสิ้นเปลืองและการบำรุงรักษารายปีด้วย ว่าเครื่องพิมพ์แบบใดมีการบำรุงรักษารายปีหรือไม่มี

         Line Official: @prostecbiz

         เบอร์โทร: 084-239-1542